บางคนที่ชอบฟังเพลง วันนี้เอาเพลงมาให้ดาวโหลดเผื่อจะเอาไว้ใช้ทำเพลงเรียกสายก็ได้ไม่ว่ากัน
http://www.mediafire.com/?sharekey=5507b5f4504eb09cd6baebe61b361f7cb26ed123b70f509cc95965eaa7bc68bc
วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552
แนะแนว แบบทดสอบวัดความรู้ October 2009
ได้รับมอบหมายมาให้ออกแบบ แบบทดสอบวัดความรู้ ภาษาอังกฤษ สำหรับชมรม เลยเอามาลงไว้ให้เผื่อคนที่สนใจจะลองเอาไปทดสอบดู ขอบอกเลยว่า ไม่ยาก ( ค่อนข้างง่ายด้วยซ้ำไป 55555 ) เพราะไม่ได้ต้องการให้เอาไปใช้สอบเข้าที่ไหน แต่อย่างน้อยหลังจากเราได้เรียนไปแล้ว ผมว่า เนี่ยแหละ อย่างน้อย พวกนี้ ถ้ารู้ ก็ถือว่า โอเค แล้วล่ะ ลองเอาไปทำดูนะครับ ตามลิงค์ข้างล่างนี้ นะครับ
http://www.mediafire.com/download.php?d2awlfunmgm
http://www.mediafire.com/download.php?d2awlfunmgm
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
รวม Links รู้ทันสันดาน Tense ฉบับย่อ มีประโยชน์มากๆ ขอบอก
จากการที่คุณ นิด ได้ไปย่อย และ อ่านหนังสือ เรื่อง รู้ทันสันดาน Tense ซึ่งอ่านสนุก และมีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่สนใจ วิธีการใช้ Tense อย่างถูกหลักไวยากรณ์ หือจะเอาไว้อ่านประดับความรูก็ดี สมควรอย่างยิ่งที่ชีวิตนี้น่าจะอ่านสักครั้ง ผมโชคดีที่ได้รับ Forward Mail มาอ่านกะเค้าด้วยคน เลยอยากรวม Links เอาไว้ให้สำหรับคนที่อยากอ่านแต่ทำไฟล์หาย หรือ ขี้เกียจรวมไฟล์ ผมเอามารวมไว้เป็นไฟล์เดียว จะได้อ่านง่ายๆ แบบต่อเนื่องมันส์ๆ ดาวโหลดได้ตาม Link ข้างล่างนี้นะครับ ไฟล์เล็กแค่ 113 KB แป๊บเดียวก็เสร็จครับ
http://www.mediafire.com/download.php?gmmylyvejxt
http://www.mediafire.com/download.php?gmmylyvejxt
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
Learning English from the Music Video 1
เห็นมั๊ยว่า เราเรียน ภาษาอังกฤษ ผ่านสื่อได้สารพัด คราวนี้ เราจะลองมาดู Music Video กันมั่ง เป็นเพลงที่มีเนื้อหาดีมากเพลงหนึ่ง แถมหนังก็น่ารัก เราสามารถดาวโหลดจาก Link นี้ได้เลยครับ
http://www.mediafire.com/download.php?ejqztmwxu1n
เนื้อเพลงนะครับ
The Show ( Lenka )
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
Slow it down
Make it stop
Or else my heart is going to pop
'Cause it's too much
Yeah, it's a lot
To be something I'm not
I'm a fool
Out of love
'Cause I just can't get enough
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
The sun is hot
In the sky
Just like a giant spotlight
The people follow the sign
And synchronize in time
It's a joke
Nobody knows
They've got a ticket to that show
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don’t know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
Just enjoy the show
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don’t know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
Just enjoy the show
Just enjoy the show
I want my money back
I want my money back
I want my money back
Just enjoy the show
I want my money back
I want my money back
I want my money back
Just enjoy the show
คำแปล
ฉันก็แค่สับสนกับชีวิตนิดหน่อย
ชีวิตเหมือนกับเขาวงกต และรักก็ราวกับปริศนาปรัศนีย์
ฉันไม่รู้ว่าควรจะไปทิศทางไหนดี
ฉันแก้ปัญหาคนเดียวไม่ไหวหรอก ฉันพยายามแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
ช่วยชะลอลงหน่อยเถอะ
หยุดมันที
ไม่อย่างนั้น หัวใจของฉันต้องระเบิดแน่ๆ
เพราะว่ามันมากเกินไป
ใช่ มันเยอะเกินจะรับมือไหว
กับการที่ต้องเป็นในสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็นจริงๆ
ในแง่ความรัก จะว่าฉันโง่ งี่เง่าก็ได้
เพราะ ทำยังไงๆ ฉันก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการฉันเองได้ซักที
ฉันมันก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ตอนนี้ จับต้นชนปลาย ไม่ถูก
ฉันกลัวจะตายอยู่แล้ว แต่ฉันไม่แสดงออกหรอก
ฉันแก้ไขปัญหาไม่ได้
ปัญหานี้มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ ฉันรู้ตัวดี
ฉันคงต้องปล่อยวางทุกอย่าง
และแค่สนุกกับละครต่อไป
พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าอยู่กลางนภา
ราวกับสปอตไลท์ขนาดมหึมา
ผู้คนต่างเดินไปตาม เครื่องหมาย สัญญาณ ที่สังคมกำหนดขึ้น
อย่างพร้อมเพรียง ราวกับเป็นท่วงทำนองเดียวกัน
ฉันว่ามันตลกดี ที่ไม่ยักมีใครสังเกตเห็น
พวกเขาต่างก็ถือตั๋วดูละครเรื่องนี้
สนุกกับละครตรงหน้า
แค่สนุกกับละครตรงหน้า
ฉันอยากได้เงินคืน
ฉันอยากได้เงินคืน
ฉันอยากได้เงินคืน
แค่สนุกกับละครตรงหน้าไปเถอะน่า
ฟังแล้วคิดตามไปด้วยนะว่า เขาพยายามจะบอกอะไรเรา
ส่วนคนที่ดู Music Video แล้ว เสียงไม่ค่อยชัดเพราะคุณภาพเสียงไม่ดี สามารถ ดางโหลด MP3 ไปฟังได้ ตาม Link นี้นะครับ
http://www.mediafire.com/file/mnwjwmz5t24/Lenka%20-%20The%20Show.mp3
http://www.mediafire.com/download.php?ejqztmwxu1n
เนื้อเพลงนะครับ
The Show ( Lenka )
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
Slow it down
Make it stop
Or else my heart is going to pop
'Cause it's too much
Yeah, it's a lot
To be something I'm not
I'm a fool
Out of love
'Cause I just can't get enough
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
The sun is hot
In the sky
Just like a giant spotlight
The people follow the sign
And synchronize in time
It's a joke
Nobody knows
They've got a ticket to that show
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don’t know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
Just enjoy the show
I'm just a little bit caught in the middle
Life is a maze and love is a riddle
I don’t know where to go
I can't do it alone, I've tried
And I don't know why
I'm just a little girl lost in the moment
I'm so scared but I don't show it
I can't figure it out
It's bringing me down I know
I've got to let it go
And just enjoy the show
Just enjoy the show
Just enjoy the show
I want my money back
I want my money back
I want my money back
Just enjoy the show
I want my money back
I want my money back
I want my money back
Just enjoy the show
คำแปล
ฉันก็แค่สับสนกับชีวิตนิดหน่อย
ชีวิตเหมือนกับเขาวงกต และรักก็ราวกับปริศนาปรัศนีย์
ฉันไม่รู้ว่าควรจะไปทิศทางไหนดี
ฉันแก้ปัญหาคนเดียวไม่ไหวหรอก ฉันพยายามแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
ช่วยชะลอลงหน่อยเถอะ
หยุดมันที
ไม่อย่างนั้น หัวใจของฉันต้องระเบิดแน่ๆ
เพราะว่ามันมากเกินไป
ใช่ มันเยอะเกินจะรับมือไหว
กับการที่ต้องเป็นในสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็นจริงๆ
ในแง่ความรัก จะว่าฉันโง่ งี่เง่าก็ได้
เพราะ ทำยังไงๆ ฉันก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการฉันเองได้ซักที
ฉันมันก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ตอนนี้ จับต้นชนปลาย ไม่ถูก
ฉันกลัวจะตายอยู่แล้ว แต่ฉันไม่แสดงออกหรอก
ฉันแก้ไขปัญหาไม่ได้
ปัญหานี้มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ ฉันรู้ตัวดี
ฉันคงต้องปล่อยวางทุกอย่าง
และแค่สนุกกับละครต่อไป
พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าอยู่กลางนภา
ราวกับสปอตไลท์ขนาดมหึมา
ผู้คนต่างเดินไปตาม เครื่องหมาย สัญญาณ ที่สังคมกำหนดขึ้น
อย่างพร้อมเพรียง ราวกับเป็นท่วงทำนองเดียวกัน
ฉันว่ามันตลกดี ที่ไม่ยักมีใครสังเกตเห็น
พวกเขาต่างก็ถือตั๋วดูละครเรื่องนี้
สนุกกับละครตรงหน้า
แค่สนุกกับละครตรงหน้า
ฉันอยากได้เงินคืน
ฉันอยากได้เงินคืน
ฉันอยากได้เงินคืน
แค่สนุกกับละครตรงหน้าไปเถอะน่า
ฟังแล้วคิดตามไปด้วยนะว่า เขาพยายามจะบอกอะไรเรา
ส่วนคนที่ดู Music Video แล้ว เสียงไม่ค่อยชัดเพราะคุณภาพเสียงไม่ดี สามารถ ดางโหลด MP3 ไปฟังได้ ตาม Link นี้นะครับ
http://www.mediafire.com/file/mnwjwmz5t24/Lenka%20-%20The%20Show.mp3
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
Learn English from the lyrics 1
วิธีการที่ดี วิธีหนึ่งในการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ก็คือ การเรียนจากบทเพลง วันนี้ เลยขอถือโอกาสนำบทเพลงไพเราะเพลงหนึ่งมานำเสนอ จริงๆแล้ว เพลงนี้ นักเรียนที่น่ารักคนหนึ่งในชั้นเรียนเป็นคนขอเองปหละ ขอออกชื่อ ณ ที่นี้เลยนะว่า คือ คุณตุ้ม สุดสวย แต่วันที่เรามีการเรียนเนื้อหาจากเพลง คุณเธอดันไม่มาซะนี่ ไม่เป้นไร เอาเป็นว่า เพลงนี้ เปิดไปแล้วนะครับ แต่ถ้าคุณตุ้มอยากฟังอึกรอบสามารถโหลดได้จากที่นี่เลยนะครับ
http://www.mediafire.com/download.php?14jynagyjmz
"Home" Michael Buble
Another summer day has come and gone away
In Paris and Rome but I wanna go home Mmmmmmmm
May be surrounded by a million people I still feel all alone
I just wanna go home Oh, I miss you, you know
And I’ve been keeping all the letters that I wrote to you
Each one a line or two “I’m fine baby, how are you?”
Well ,I would send them but I know that it’s just not enough
My words were cold and flat and you deserve more than that
Another aeroplane Another sunny place I’m lucky, I know
But I wanna go home Mmmm, I’ve got to go home
Let me go home I’m just too far from where you are I wanna come home
And I feel just like I’m living someone else’s life
It’s like I just stepped outside when everything was going right
And I know just why you could not come along with me
'Cause this was not your dream but you always believed in me
Another winter day has come and gone away
In even Paris and Rome and I wanna go home Let me go home
And I’m surrounded by a million people I still feel all alone .Oh, let me go home
Oh, I miss you, you know
Let me go home I’ve had my run Baby, I’m done I gotta go home
Let me go home It‘ll all be all right I’ll be home tonight I’m coming back home
คำแปล
วันของฤดูร้อนก็ผ่านไปอีกวัน ไม่ว่าจะในปารีสและกรุงโรม
แต่ฉันอยากกลับบ้าน
ถึงแม้จะมีผู้คนนับล้านรายล้อมอยู่รอบตัวฉัน
แต่กระนั้นฉันก็ยังรู้สึกเปลี่ยวเหงา
ฉันเพียงอยากกลับบ้าน ฉันคิดถึงคุณนะ คุณก็รู้
ฉันยังคงเก็บรักษาจดหมายทุกฉบับที่ฉันเขียนถึงคุณ
มีประโยคที่ฉันมักเขียนไว้ หนึ่งหรือ สองบรรทัด ในแต่ละฉบับ
ที่รัก ฉันสบายดีนะ แล้วคุณล่ะ เป็นไงบ้าง?
ฉันน่าจะได้ส่งจดหมายเหล่านั้น
แต่ก็รู้ดีว่านั่นมันไม่เพียงพอหรอก
ถ้อยคำของฉันอาจดูเย็นชาและทื่อๆ
แต่ฉันรู้ว่า คุณน่ะ คู่ควร กับสิ่งที่มีค่า มากกว่านั้น
เครื่องบินลำแล้วลำเล่า ก้าวไป สู่แดนดินแห่งดวงตะวันสาดแสงแห่งใหม่
ฉันรู้ว่า ตัวฉันเองโชคดี
แต่ฉันอยากจะกลับบ้าน
ฉันต้องกลับบ้านให้ได้...
ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ
ฉันไกลห่างจากคุณเหลือเกิน
ฉันอยากกลับไปหา...
รู้สึกราวกับว่าฉันอาศัยอยู่ในร่างของใคซักคนหนึ่ง
ประดุจตัวเองก้าวจากมา ทั้งๆที่ทุกอย่างก็ดูลงตัวหมดแล้ว
ฉันเองรู้อยู่เต็มอก ว่าเพราะสาเหตุใด คุณจึงไม่อาจร่วมเดินไปกับฉันได้ก็เพราะว่านี่ไม่ใช่ความใฝ่ฝันของคุณ
แต่คุณก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวฉันเสมอ
วันของฤดูหนาวก็ผ่านไปอีกวัน ไม่ว่าจะในปารีสและกรุงโรม
แต่ฉันอยากกลับบ้าน ให้ฉันได้กลับบ้านเถอะ
ถึงแม้จะมีผู้คนนับล้านรายล้อมอยู่รอบตัวฉัน
แต่กระนั้นฉันก็ยังรู้สึกเปลี่ยวเหงา
ฉันเพียงอยากกลับบ้าน ฉันคิดถึงคุณนะ คุณก็รู้
ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ ฉันมาได้ไกลมากแล้ว คนดี ฉันทำได้แล้ว คงต้องกลับบ้านเสียที
ขอให้ฉันได้กลับไป ก็คงจะดีนะ หากค่ำคืนนี้ที่ฉันจะได้อยู่บ้าน ฉันจะกลับบ้าน ....
http://www.mediafire.com/download.php?14jynagyjmz
"Home" Michael Buble
Another summer day has come and gone away
In Paris and Rome but I wanna go home Mmmmmmmm
May be surrounded by a million people I still feel all alone
I just wanna go home Oh, I miss you, you know
And I’ve been keeping all the letters that I wrote to you
Each one a line or two “I’m fine baby, how are you?”
Well ,I would send them but I know that it’s just not enough
My words were cold and flat and you deserve more than that
Another aeroplane Another sunny place I’m lucky, I know
But I wanna go home Mmmm, I’ve got to go home
Let me go home I’m just too far from where you are I wanna come home
And I feel just like I’m living someone else’s life
It’s like I just stepped outside when everything was going right
And I know just why you could not come along with me
'Cause this was not your dream but you always believed in me
Another winter day has come and gone away
In even Paris and Rome and I wanna go home Let me go home
And I’m surrounded by a million people I still feel all alone .Oh, let me go home
Oh, I miss you, you know
Let me go home I’ve had my run Baby, I’m done I gotta go home
Let me go home It‘ll all be all right I’ll be home tonight I’m coming back home
คำแปล
วันของฤดูร้อนก็ผ่านไปอีกวัน ไม่ว่าจะในปารีสและกรุงโรม
แต่ฉันอยากกลับบ้าน
ถึงแม้จะมีผู้คนนับล้านรายล้อมอยู่รอบตัวฉัน
แต่กระนั้นฉันก็ยังรู้สึกเปลี่ยวเหงา
ฉันเพียงอยากกลับบ้าน ฉันคิดถึงคุณนะ คุณก็รู้
ฉันยังคงเก็บรักษาจดหมายทุกฉบับที่ฉันเขียนถึงคุณ
มีประโยคที่ฉันมักเขียนไว้ หนึ่งหรือ สองบรรทัด ในแต่ละฉบับ
ที่รัก ฉันสบายดีนะ แล้วคุณล่ะ เป็นไงบ้าง?
ฉันน่าจะได้ส่งจดหมายเหล่านั้น
แต่ก็รู้ดีว่านั่นมันไม่เพียงพอหรอก
ถ้อยคำของฉันอาจดูเย็นชาและทื่อๆ
แต่ฉันรู้ว่า คุณน่ะ คู่ควร กับสิ่งที่มีค่า มากกว่านั้น
เครื่องบินลำแล้วลำเล่า ก้าวไป สู่แดนดินแห่งดวงตะวันสาดแสงแห่งใหม่
ฉันรู้ว่า ตัวฉันเองโชคดี
แต่ฉันอยากจะกลับบ้าน
ฉันต้องกลับบ้านให้ได้...
ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ
ฉันไกลห่างจากคุณเหลือเกิน
ฉันอยากกลับไปหา...
รู้สึกราวกับว่าฉันอาศัยอยู่ในร่างของใคซักคนหนึ่ง
ประดุจตัวเองก้าวจากมา ทั้งๆที่ทุกอย่างก็ดูลงตัวหมดแล้ว
ฉันเองรู้อยู่เต็มอก ว่าเพราะสาเหตุใด คุณจึงไม่อาจร่วมเดินไปกับฉันได้ก็เพราะว่านี่ไม่ใช่ความใฝ่ฝันของคุณ
แต่คุณก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวฉันเสมอ
วันของฤดูหนาวก็ผ่านไปอีกวัน ไม่ว่าจะในปารีสและกรุงโรม
แต่ฉันอยากกลับบ้าน ให้ฉันได้กลับบ้านเถอะ
ถึงแม้จะมีผู้คนนับล้านรายล้อมอยู่รอบตัวฉัน
แต่กระนั้นฉันก็ยังรู้สึกเปลี่ยวเหงา
ฉันเพียงอยากกลับบ้าน ฉันคิดถึงคุณนะ คุณก็รู้
ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ ฉันมาได้ไกลมากแล้ว คนดี ฉันทำได้แล้ว คงต้องกลับบ้านเสียที
ขอให้ฉันได้กลับไป ก็คงจะดีนะ หากค่ำคืนนี้ที่ฉันจะได้อยู่บ้าน ฉันจะกลับบ้าน ....
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Preposition
Prepositions (คำบุพบท) หมายถึง คำที่ใช้นำหน้าคำนาม หรือคำที่ทำหน้าที่เหมือนคำนามในประโยค เพื่อขยายความให้ผู้รับสาร เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น
Prepositions มี 3 ประเภท
1. Prepositions of Time เป็นคำบุพบทที่ใช้บอกเกี่ยวกับเวลา คำที่มักใช้บ่อยคือ at , on , in ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้ ยกตัวอย่างเช่น
a.in ใช้กับ เดือน ปี ฤดูกาลและช่วงเวลา เช้า บ่าย เย็น ตัวอย่างเช่น
The weather is really cold in January.
อากาศมันหนาวจริงๆเลยนะในเดือนมกราคม
We usually go to see our grandparents in summer.
เราไปเยี่ยม คุณตาคุณยาย ในฤดูร้อนเป็นประจำเลย
He was born in 1990.
เขาเกิดในปี 1990
They get up very early in the morning.
พวกเขาตื่นนอนเช้ามากๆ
หมายเหตุ ในกรณีที่วัน เดือน ปี หรือฤดูกาลต่างๆ มีคำมาขยายข้างหน้าแล้ว เช่น last Sunday , next Summer , this afternoon เป็นต้น เราจะไม่ใช้ in , on หรือ at นำหน้าอีก ตัวอย่างเช่น
I saw her last Tuesday. ฉันเจอเธอเมื่ออังคารที่แล้ว
She will be sixteen next month. เธอจะอายุสิบหกเดือนหน้า
คำที่บอกวันได้แก่ today , yesterday , tomorrowทั้งสามคำนี้ไม่ต้องมีคำบุพบทนำหน้าอีก ตัวอย่างเช่น
I will call you tomorrow. ฉันจะโทรหาเธอพรุ่งนี้นะ
b.on ใช้กับวัน และวันสำคัญ ใช้กับวันของสัปดาห์หรือวันที่ของเดือนรวมทั้งวันหยุดต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น
The students study English on Friday.
พวกนักเรียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษในวันศุกร์
I will give you a nice gift on Christmas Day.
ฉันจะให้ของขวัญดีดีกับเธอในวันคริสต์มาส
c.at ใช้กับ เวลา ( บอกเวลาตามนาฬิกาบอกช่วงของเวลา จุดย่อย ๆ ของเวลา วันหรือระยะเวลาที่เป็นเทศกาลประจำปี)
We enjoy seeing movies at midnight.
พวกเราชอบดูหนังตอนเที่ยงคืน
Khun Toi always goes home at five thirty.
คุณต้อยมักจะกลับบ้านตอน 5.30 น.
2. Prepositions of Place ( คำบุพบทบอกสถานที่ )
a.in ใน , อยู่ใน ใช้ระบุถึง "ภายใน" ของสถานที่ ตัวอย่างเช่น
We live in Bangkok.
พวกเราอาศัยอยู่ในกรุงเทพ
Look !!! The eagle is in that cage.
ดูสิ นกอินทรีอยู่ในกรงนั้นแน่ะ
Your father is sleeping in that room.
พ่อของเธอนอนอยูในห้องนั้นแน่ะ
You shouldn't talk in the library.
เธอไม่ควรคุยในห้องสมุดนะ
b.on บน , อยู่บน ใช้ระบุถึงตำแหน่งว่าอยู่ "บน" หรือ "ริม" ของสถานที่ ตัวอย่างเช่น
My book is on the red chair.
หนังสือของฉันอยู่บนเก้าอี้สีแดงนั่น
Please look at the picture on the wall.
ช่วยดูรูปภาพบนฝาผนังนั่นทีซิ
She has been on the road for more than one hour.
เธออยู่บนท้องถนนมานานกว่าชั่วโมงแล้ว
Bangkok is on the left bank of the Chao Phraya River.
กรุงเทพมหานครตั้อยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา
c.at ที่ , อยู่ที่ ใช้ระบุตำแหน่งของสถานที่เป็นจุดย่อย ๆ เช่น ที่ร้านค้า ที่โรงเรียน ที่สนามบินและใช้กับบ้านเลขที่ ตัวอย่างเช่น
There are so many taxis at the entrance of GHB.
มีแท็กซี่เยอะแยะเลยที่ทางเข้าของธนาคารอาคารสงเคราะห์
Do you work at GHB?
พวกคุณทำงานที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์เหรอ
I live at 456 ,New Road, Bangrak.
ฉันอยู่ที่บ้านเลขที่ 456 ถนนเจริญกรุง บางรัก จ้า
I has been waiting for you at the hotel.
ฉันรอเธออยู่ที่โรงแรมมาตั้งนานแล้ว
3. Prepositions อื่นๆ ( คำบุพบทอื่นๆ )
a.under ล่าง , ข้างล่าง , ใต้ , ข้างใต้
P’ Lek is sitting under that big tree.
พี่เล็กกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั่น
b.with ด้วย , กับ
She sings beautifully with her wonderful voice.
เธอร้องเพลงอย่างไพเราะเพราะพริ้งด้วยเสียงที่มหัศจรรย์ของเธอ
c.by โดย
Why don’t we go to Chiengmai by plane?
ทำไมเราไม่ไปเชียงใหม่โดยเครื่องบินล่ะ
d.To ใช้ระบุถึงจุดหมายปลายทางหรือผู้รับที่เป็นชื่อบุคคลหรือสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม ตัวอย่างเช่น
I will go to USA next year.
ฉันจะไป อเมริกา ปีหน้า
They made a visit to the museum.
พวกเขาได้เดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
Prepositions มี 3 ประเภท
1. Prepositions of Time เป็นคำบุพบทที่ใช้บอกเกี่ยวกับเวลา คำที่มักใช้บ่อยคือ at , on , in ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้ ยกตัวอย่างเช่น
a.in ใช้กับ เดือน ปี ฤดูกาลและช่วงเวลา เช้า บ่าย เย็น ตัวอย่างเช่น
The weather is really cold in January.
อากาศมันหนาวจริงๆเลยนะในเดือนมกราคม
We usually go to see our grandparents in summer.
เราไปเยี่ยม คุณตาคุณยาย ในฤดูร้อนเป็นประจำเลย
He was born in 1990.
เขาเกิดในปี 1990
They get up very early in the morning.
พวกเขาตื่นนอนเช้ามากๆ
หมายเหตุ ในกรณีที่วัน เดือน ปี หรือฤดูกาลต่างๆ มีคำมาขยายข้างหน้าแล้ว เช่น last Sunday , next Summer , this afternoon เป็นต้น เราจะไม่ใช้ in , on หรือ at นำหน้าอีก ตัวอย่างเช่น
I saw her last Tuesday. ฉันเจอเธอเมื่ออังคารที่แล้ว
She will be sixteen next month. เธอจะอายุสิบหกเดือนหน้า
คำที่บอกวันได้แก่ today , yesterday , tomorrowทั้งสามคำนี้ไม่ต้องมีคำบุพบทนำหน้าอีก ตัวอย่างเช่น
I will call you tomorrow. ฉันจะโทรหาเธอพรุ่งนี้นะ
b.on ใช้กับวัน และวันสำคัญ ใช้กับวันของสัปดาห์หรือวันที่ของเดือนรวมทั้งวันหยุดต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น
The students study English on Friday.
พวกนักเรียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษในวันศุกร์
I will give you a nice gift on Christmas Day.
ฉันจะให้ของขวัญดีดีกับเธอในวันคริสต์มาส
c.at ใช้กับ เวลา ( บอกเวลาตามนาฬิกาบอกช่วงของเวลา จุดย่อย ๆ ของเวลา วันหรือระยะเวลาที่เป็นเทศกาลประจำปี)
We enjoy seeing movies at midnight.
พวกเราชอบดูหนังตอนเที่ยงคืน
Khun Toi always goes home at five thirty.
คุณต้อยมักจะกลับบ้านตอน 5.30 น.
2. Prepositions of Place ( คำบุพบทบอกสถานที่ )
a.in ใน , อยู่ใน ใช้ระบุถึง "ภายใน" ของสถานที่ ตัวอย่างเช่น
We live in Bangkok.
พวกเราอาศัยอยู่ในกรุงเทพ
Look !!! The eagle is in that cage.
ดูสิ นกอินทรีอยู่ในกรงนั้นแน่ะ
Your father is sleeping in that room.
พ่อของเธอนอนอยูในห้องนั้นแน่ะ
You shouldn't talk in the library.
เธอไม่ควรคุยในห้องสมุดนะ
b.on บน , อยู่บน ใช้ระบุถึงตำแหน่งว่าอยู่ "บน" หรือ "ริม" ของสถานที่ ตัวอย่างเช่น
My book is on the red chair.
หนังสือของฉันอยู่บนเก้าอี้สีแดงนั่น
Please look at the picture on the wall.
ช่วยดูรูปภาพบนฝาผนังนั่นทีซิ
She has been on the road for more than one hour.
เธออยู่บนท้องถนนมานานกว่าชั่วโมงแล้ว
Bangkok is on the left bank of the Chao Phraya River.
กรุงเทพมหานครตั้อยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา
c.at ที่ , อยู่ที่ ใช้ระบุตำแหน่งของสถานที่เป็นจุดย่อย ๆ เช่น ที่ร้านค้า ที่โรงเรียน ที่สนามบินและใช้กับบ้านเลขที่ ตัวอย่างเช่น
There are so many taxis at the entrance of GHB.
มีแท็กซี่เยอะแยะเลยที่ทางเข้าของธนาคารอาคารสงเคราะห์
Do you work at GHB?
พวกคุณทำงานที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์เหรอ
I live at 456 ,New Road, Bangrak.
ฉันอยู่ที่บ้านเลขที่ 456 ถนนเจริญกรุง บางรัก จ้า
I has been waiting for you at the hotel.
ฉันรอเธออยู่ที่โรงแรมมาตั้งนานแล้ว
3. Prepositions อื่นๆ ( คำบุพบทอื่นๆ )
a.under ล่าง , ข้างล่าง , ใต้ , ข้างใต้
P’ Lek is sitting under that big tree.
พี่เล็กกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั่น
b.with ด้วย , กับ
She sings beautifully with her wonderful voice.
เธอร้องเพลงอย่างไพเราะเพราะพริ้งด้วยเสียงที่มหัศจรรย์ของเธอ
c.by โดย
Why don’t we go to Chiengmai by plane?
ทำไมเราไม่ไปเชียงใหม่โดยเครื่องบินล่ะ
d.To ใช้ระบุถึงจุดหมายปลายทางหรือผู้รับที่เป็นชื่อบุคคลหรือสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม ตัวอย่างเช่น
I will go to USA next year.
ฉันจะไป อเมริกา ปีหน้า
They made a visit to the museum.
พวกเขาได้เดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)